หลักการถ่ายภาพ



การจัดองค์ประกอบภาพ








1. ตาแหน่งจุดเด่นหรือจุดสนใจ (point of interest) หลักการประกอบภาพนั้น นิยมวางจะเด่นหรือจุดสนใจไว้ตรงจุดตัด 9 ช่อง ไม่ว่าจะเป็นภาพแนวตั้ง แนวนอน หรือเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสก็ตาม (ดังภาพประกอบ









2. ความสมดุลของภาพ (balance) ความสมดุลในการจัดองค์ประกอบภาพนั้นคือการจัดวางสิ่งต่างๆ ในภาพให้มีความสมดุลกัน โดยมิให้ด้านใดด้านหนึ่งของภาพหนักกว่าอีกด้านหนึ่งไม่ว่าจะเป็นด้านซ้าย-ขวา หรือด้านบน-ล่าง หากวางส่วนสำคัญต่างๆให้เหมาะสมจะทำให้ความสมดุลในองค์ประกอบสวยงามดีขึ้น 










3. ความสมดุลของสี (tone balance) ส่วนสัมพันธ์ต่าง ๆ ของสีในภาพก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องค านึงถึง จากภาพที่ 3 รูปที่ 1 - 2จะเห็นได้ว่า การจัดสีเข้มไว้เบื้องล่างจะแลดูดีกว่าวางอยู่ข้างบน ส่วนภาพที่ 3 หากมีความจำเป็นที่จะต้องมีสีเข้มอยู่ส่วนบนก็ควรแก้ไขด้วยการสอดแทรกสีอ่อนลงไปบ้าง ในทำนองเดียวกันหากด้านบนมีสีอ่อนมากไปก็อาจเสริมสีเข้มเข้าไปบ้างก็ได้ จะทำให้ความสมดุลของสีดีขึ้น











4. การเน้นสี (emphasis on tone) การเน้นสีเป็นการเน้นจุดเด่นให้เห็นเด่นชัดจริงๆเนื่องจากจุดเด่นนั้นมีความสำคัญในเรื่องน้ำหนักของสี เช่น จุดเด่นมีน้ำหนักสีเข้มก็ควรให้วางอยู่ในที่ที่มีพื้นสีอ่อนในทางกลับกันหากจุดเด่นมีสีอ่อนก็ควรจัดให้อยู่ในพื้นที่ที่มีสีเข้มกว่าการถ่ายรูปคนที่แต่งชุดเขียวอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวย่อมจะทำให้ไม่ได้ผลดีในการเน้นสีเพราะสีทั้งสองมีน้ำหนักสีใกล้เคียงกันไม่ว่าจะถ่ายเป็นภาพสีหรือภาพขาวดำก็ตามการเน้นสีย่อมจะไม่เด่นพอ









5. การเน้นลักษณะของรูปทรง (emphasis of forms)ลักษณะรูปทรงต่าง ๆ ในภาพถ่ายมีได้หลายแบบ เช่น

 - รูปสามเหลี่ยม เป็นเครื่องหมายแห่งความมั่นคง หนักแน่น
 - รูปตัว S แสดงถึงความอ่อนช้อย อ่อนหวาน นุ่มนวล
  • รูปตัว L แสดงถึงการเชื่อมโยง ความผูกพัน เกี่ยวพันถึงกัน


6. การแสดงซ้ำซากหรือล้อเลียน (repetition echo) องค์ประกอบในภาพถ่ายอาจจะมีการแสดงซ้ำซากหรือล้อเลียน เปรียบเช่นโคลงกลอนที่

ไพเราะจับใจ จะต้องมีเสียงสัมผัสที่ดี หรือดนตรีที่ไพเราะน่าฟัง ก็ต้องมีท่วงทำนองและลูกคู่ที่คล้องจองพร้อมเพรียงกัน









7. บรรยากาศและอารมณ์ (atmosphere and emotion) ภาพถ่ายก็คล้ายกับภาพเขียนที่มีการแสดงออกถึงบรรยากาศทำให้ผู้ชมเกิดอารมณ์

คล้อยตาม เช่น เกิดความหนาว เยือกเย็น เกิดความสงบหรือความรุ่มร้อน รุนแรง รวมทั้งอารมณ์ของภาพที่แสดงผลไปในทางแจ่มใส ร่าเริง สดชื่น หรือเศร้าโศก อับเฉา เป็นต้น 









8. ความลึกและทัศนมิติ (third dimention) ตามปกติแล้ว แผ่นภาพถ่ายจะมีเพียง 2 มิติ คือความกว้างและความยาวเท่านั้น ส่วน

ความลึกนั้นไม่มีการที่จะทำให้ภาพเกิดความลึกด้วยนั้น ทำได้หลายวิธี เช่น
- เน้นสิ่งที่อยู่ใกล้ให้มีสีเข้มแล้วค่อยๆ ให้สีจางลงไปตามระยะที่ห่างออกไป
- ประกอบโครงสร้างล้อมกรอบอยู่ในฉากหน้าของภาพ
- เน้นความชัดเฉพาะจุดเด่นที่อยู่ใกล้ ปล่อยให้สิ่งที่อยู่ไกลถัดไปพร่ามัวตามลำดับ
- สรรหาสิ่งที่เป็นทิวแถว เน้นตอนหน้าให้มีลักษณะใหญ่แล้วค่อย ๆ ลดขนาด
ลงตามระยะ
- ใช้เส้นนำสายตาไปสู่จุดสนใจ จากใกล้ไปถึงไกล
- ให้แสงส่องมาจากด้านข้างหรือด้านหลัง พร้อมกับใช้ฉากหลังที่มีสีเข้มทำให้
เกิดความลึกแก่ภาพเช่นเดียวกัน 










9. เนื้อที่ของภาพ (picture area) เนื้อที่ในแผ่นภาพทุกตารางนิ้ว มีไว้สำหรับจัดวางองค์ประกอบการถ่ายภาพที่ให้จุดเด่นมีขนาดใหญ่เกินไปจะทำให้ดูรู้สึกคับภาพจุดเด่นเล็กเกินไปก็รู้สึกว่างเปล่าและไร้ความหมายความสัมพันธ์ระหว่างช่องว่างกับจุดเด่นจึงมีความสำคัญเกี่ยวพันกันอยู่จุดเด่นที่มีกิริยาเคลื่อนไปข้างใด หรือคนหันหน้าไปทางไหนข้างนั้นควรให้มีช่องว่างมากกว่า มิฉะนั้นจะทำให้รู้สึกว่าไม่มีที่ว่างจะก้าวหรือเคลื่อนไปถ้าวางจุดเด่นอยู่ชิดขอบภาพเกินไป ก็จะทำให้รู้สึกอึดอัด ดูแล้วไม่สบายใจ











10. เอกภาพ (unity) การจัดองค์ประกอบต่างๆ ในภาพให้มีความสัมพันธ์กันอย่างมีเหตุผล ตามเรื่องราวที่ภาพแสดงออกมาและเชื่อมโยงให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ได้ชื่อว่ามีเอกภาพในภาพอย่างไงก็ตาม ไม่ควรจัดส่วนต่างๆ ในภาพให้เรียบร้อยเกินไปจนดูแล้วรู้ได้ว่าเป็นการจงใจในเวลาเดียวกันก็ต้องขจัดสิ่งต่างๆ ที่จะทำให้ภาพมีความยุ่งเหยิงออกไปให้หมด การแสดงเรื่องราวในภาพเดียวกันหลายๆ เรื่องก็ทำลายเอกภาพเช่นกัน ดังภาพด้านล่าง ภาพเด็กๆกำลังเล่นน้ำ เป็นการแสดงอุปนิสัยของเด็กๆเป็นเรื่องราวเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น